แด่ประสบการณ์ที่เคยทำธุรกิจเครือข่าย


ผมจะแชร์ประสบการณ์ให้ฟัง

ช่วงนี้มีกระแสสินค้าขายตรงบางยี่ห้อตรวจพบเจอสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ก็ต้องยอมรับว่าสินค้าตัวนี้มีกระแสพอสมควรแหล่ะครับ เพราะพ่อค้าแม่ค้าตัวแทนโพสสร้างกระแสแทบทุกวัน วันละ 3 เวลาเลยทีเดียว แต่เมื่อมีผู้ที่ออกมารายงานความบกพร่องที่เกิดขึ้น ตัวแทนก็กลับออกมาปกป้องด้วยท่าทีที่รุ่นแรงเลยทีเดียว แต่กรณีนี้ผมเข้าใจความรู้สึกครับ

ผมเคยทำธุรกิจเครือข่ายมาก่อนแหล่ะ ทำได้ระดับหนึ่ง ผมเข้าใจดีว่าความรู้สึกตอนนั้นมันเป็นยังไง การที่เข้าอบรมหรือสัมมนา และ การที่อัพไลน์* พูดกรอกหูอยู่ตลอดว่าสินค้าของบริษัทตัวเองดีกว่าสินค้าที่มีอยู่ทั่วไปอย่างไร ทำให้คนที่หัดทำธุรกิจมือใหม่อย่างเรามีความเชื่อมั่น ทั้งสินค้า และ บริษัท (ในประเด็นสินค้าดีจริงไม่ดีจริงผมขอไม่พูดถึงเรื่องนี้ เพราะมันขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้บริโภค)

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมได้ค้นพบหลังจากที่ถอนตัวออกมา ผมพอมีสติที่จะค้นหาข้อมูลต่างๆ อย่างเช่น อัพไลน์ระดับสูง ผมพบว่าบุคคลเหล่านี้เคยเป็นระดับท็อปๆ ของหลายบริษัทก่อนหน้าที่จะย้ายมา พบว่าบุคคลเหล่านี้ทำธุรกิจเครือข่ายและขายตรงเป็นมืออาชีพ เมื่อย้ายไปบริษัทใหม่ ก็จะย้ายกันยกเส้นสาย ทั้งลูก หลาน เหลน โหลน มันก็ไม่ยากที่เขาจะขึ้นมาเป็นระดับสูงภายในระยะเวลาไม่นานนัก เพราะเขามีฐานเครือข่ายอยู่แล้ว

และเมื่อผมออกมาได้ 5 ปีให้หลัง ผมพบว่าเมื่อยอดขายถึงทางตัน พวกเขาก็ย้ายกันไปบริษัทใหม่ บ้างก็กลายเป็นผู้นำสูงสุด บ้างก็เปิดผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และพวกเขาล้วนเป็นตำแหน่งท็อปๆ ของบริษัทนั้นๆ แทบทุกคน ก็มีบางคนที่ล้มเลิกไป แต่บริษัทก็ยังคงขึ้นรูปโชว์ตำแหน่งผู้นำจนถึงวันนี้ ทั้งๆ ที่เขาแค่เคยได้รับตำแหน่งนั้น และยอดเงินจำนวนเท่านั้นอาจได้รับจริงเพียงแค่ครั้งเดียว

สิ่งที่ผมจะบอกคือ คนเหล่านี้ เมื่ออยู่บริษัทไหนก็จะอวยสินค้าบริษัทนั้น มันคืออาชีพของเขา บางทีบริษัทเดิมก่อนที่เขาจะย้ายมาก็ขายสินค้าชนิดเดียวกัน แต่นักธุรกิจมือใหม่อย่างเราอาจไม่เข้าใจ เชื่อหัวปักหัวปำว่าสินค้าของตนเองดีที่สุด ประมาณว่า "ต้องบริษัทนี้เท่านั้นที่เปลี่ยนชีวิตได้" ซึ่งมันไม่ผิดหากว่าคุณคิดแบบนั้นด้วยความคิดของคุณเอง แต่ความเป็นจริงเราถูกระบบกล่อมให้เราเชื่อแค่เพียงด้านเดียวมากกว่า บางคนเชื่อมั่นมากจนใครหน้าไหนแตะแทบไม่ได้เลย เขาให้ทำอะไรก็ทำ โดยอ้างว่า "ไม่ได้โกหก แต่พูดความจริงไม่หมด" นี่มันก็ไม่จริงใจแล้ว

ผมแค่อยากจะพูดให้เห็นวัฏจักรของอาชีพนักธุรกิจเครือข่ายมืออาชีพ ที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปบริษัทใหม่ๆ บางคนเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลบ่อยๆ (อันนี้ไม่ค่อยเข้าใจ อาจจะเป็นความเชื่อส่วนบุคคล) ครั้งหนึ่งเคยเรียกว่าบริษัทขายตรง พอคนไม่โอเคก็เรียกใหม่ว่าธุรกิจเครือข่าย ปัจจุบันก็กลับมาขายตรง ใช้สินค้าตัวเดียว และสุดท้ายการทำธุรกิจมันย่อมมีขึ้นและมีลง ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อใหม่ๆ ย่อมเกิดขึ้นมาทดแทน ถ้าบริษัทนี้ถูกตรวจสอบพบปัญหาก็อย่าเพิ่งออกตัวแรงนะฮะ นิ่งๆ ไว้ก่อนรอผลสรุปดีกว่า เข้าใจว่าอาจจะมีบางคนที่ลงทุนไปเยอะ ก็ไม่อยากขาดทุน แต่จำไว้นะครับ ถ้าอยากจะเริ่มทำธุรกิจครั้งต่อไป เริ่มต้นพิจารณาที่ความจริงใจจะอยู่ยาวกว่า แต่ถ้ามองเห็นเฉพาะเพียงโอกาส ก็แล้วแต่วิจารณญาณครับ เพราะคนที่ทำแล้วประสบความสำเร็จก็มีจริงๆ ครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Sport Day หรือ Sports Day?

Organizing : Topic, Supporting และ Concluding Sentences

Special Days in Thailand : วันหยุดของไทย ภาษาอังกฤษ