บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ตุลาคม, 2011

เขียนคำนำ อย่างไรให้ดูดี

รูปภาพ
        พอดีเข้าไปอ่านบทความในเว็บกระปุกดอทคอม ( www.kapook.com ) เห็นบทความในเรื่องของการเขียน "คำนำ" ก็เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อนักเรียนมากๆ เพราะปัจจุบันคำนำที่นักเรียนเขียนๆ ส่งกันมามักจะมีรูปแบบเหมือนกัน(เป๊ะ) เปลี่ยนแค่ชื่อผู้จัดทำแค่นั้นเอง .. เฮ้อ /// ก็เลยขอ coppy เพื่อเป็นความรู้ให้กับนักเรียนที่เข้ามาอ่าน blog ของครูโจโจ้แล้วกัน เผื่อจะได้สร้าง"คำนำ"ที่สร้างสรรค์ด้วยความคิดของตัวเองโดยไม่ต้องลอกใคร .. โดยทางเว็บ Kapook ได้เขียนไว้บางส่วนดังนี้...      (ที่มา http://education.kapook.com/view31569.html )  สำหรับหลักการเขียนคำนำรายงานนั้น หลักง่าย ๆ เลยก็คือต้องเขียนให้ผู้อ่านสนใจอยากจะอ่านรายงานของเรา โดยเริ่มต้นอาจจะเขียนถึงที่มาที่ไปของรายงานฉบับนี้ จุดประสงค์และเหตุผลของการทำรายงานประเด็นนี้ หรือเรียกร้องถึงความสำคัญของประเด็นที่จะนำเสนอ บอกความเป็นมาคร่าว ๆ โดยอาจตั้งเป็นคำถามชวนให้ผู้อ่านคิด แล้วโยงเข้าสู่เรื่องที่เราอยากจะบอกก็ได้ ไม่ควรกว้าง หรือย้อนไปไกลมากจนเกินไป หรือวกวนจนจับประเด็นไม่ได้

วันเกิดนี้ กับโครงการบริจาคน้ำท่วม

รูปภาพ
เนื่องในวันคล้ายวันเกิดในปีนี้ของผม .. ผมขอขอบคุณทุกๆ คน ทุกๆ ท่าน ที่ post comment ใน  facebook   ของผมเพื่อแสดงความยินดีด้วยการ Happy Birth Day     และอวยพรในสิ่งดีๆ ให้กับผม ทั้งนี้ทั้งนั้นผมได้คิด project หนึ่งขึ้นมาโดยไม่บอกใครล่วงหน้า คือผมจะนำ จำนวนคนที่ HBD และอวยพรในวันเกิดของผมทั้งหมด x 10 บาท เพื่อที่จะนำจำนวนเงิน(ส่วนตัว)ไปร่วมบริจาคผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ศูยน์บริจาคของจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงจำนวนคนที่แสดงการ Happy Birth Day  (จำนวนคนที่โพสก่อนเที่ยงคืน) (และจำนวนคนที่โพสหลังเที่ยงคืน) จำนวนทั้งหมดจาก facebook คือ (253 +2) + (24 +2) = 281 คน รวมถึงผู้ที่ส่ง  message มาเบื้องหลัง อีก  2 คน กรุ๊ป ปกครองศึกษา   12 คน กรุ๊ป TK&FRIENDS   8 คน และ sms ผ่านมือถืออีก 3 คน 281 + 2 +12 + 8 + 3 + คุณแม่ = 300 คน 300 คน x 10 บาท = 3000 บาท (พอดีเป๊ะ) ทั้งนี้เพื่อเป็นการขอบคุณทุกๆ คนที่สละเวลามาแสดงความยินดีในวันเกิดของผม ผมจึงคิดโครงการนี้ขึ้นเพื่อให้ทุกๆ คนได้มีส่วนร่วมในการทำบุญครั้งนี้ในใจก่อน (เพราะถ้าบอกไป

Lazy Eye(ตาขี้เกียจ) ผู้ใหญ่อาจรักษาได้

รูปภาพ
          หลายๆ คนอาจจะเพิ่งได้ยินโรค "ตาขี้เกียจ" .. ไม่ได้หมายว่าแก่มาแล้วจะเป็นคุณตาแล้วจะขี้เกียจนะคร้าบบ ..  มันหมายถึงดวงตาของเรานี่แหล่ะครับ ที่ผมเขียนเรื่องนี้ก็เพราะว่าเมื่อช่วงก่อนที่โรงเรียนมีบริการตรวจสุขภาพประจำปี จากนั้นพอถึงคิวตรวจสายตา ก็ได้เรื่องเลยครับ ผมเป็นโรคตาขี้เกียจครับ เท่านั้นแหล่ะ หลังจากที่สั่งแว่นแล้วก็รีบกลับมาค้นคว้าหาข้อมูลว่าไอ่โรคชื่อตลกๆ แบบนี้เนี่ยมันมีจริงด้วยเหรอ มีจำนวนคนที่เป็นโรคนี้ไม่น้อยเลย และหลายคนเลยทีเดียวที่เป็นแบบไม่รู้ตัว เพราะว่าจริงๆ แล้วมันไม่ได้น่ากลัวอะไรมากหรอกครับ ก็สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ แต่อาจจะรำคาญเล็กๆ น้อยๆ บ้าง ทีนี้เรามารู้จักกับโรคตาขี้เกียจกันดีกว่าครับ ...                     โรคตาขี้เกียจ แปลมาจากภาษาอังกฤษก็คือ Lazy Eye หรือมีชื่อทางการแพทย์ว่า Amblyopia [แอมบลิโอเฟีย] คือภาวะการมองเห็นของตาข้างหนึ่งไม่ปกติ เช่นตาข้างขวาสามารถมองเห็นวัตุได้ชัดเจน แต่ตาข้างซ้ายกลับมองเห็นวัตถุมัวๆ เบลอๆ เราสามารถทดสอบตัวเราเองได้จากเมื่อมองตัวหนังสือที่ตัวเล็กๆ พออ่านได้ แล้วปิดตาข้างใดข้างหนึ่ง หา